Sunday, January 27, 2008

ข่าวลือเรื่องควงและพี่น้องปราโมชวางแผนสถาปนาให้พระองค์เจ้าจุมภฏเป็นกษัตริย์ ในปี 2491



หมายเหตุ: บทความนี้ มีความเป็นมาตั้งแต่ปี 2550 บันทึกของ เคนเน็ธ พี แลนดอน ที่นำมาเผยแพร่ในบทความ ผมได้ทำการเซ็นเซอร์บางตอนออก โดยครั้งแรกได้เซ็นเซอร์ข้อความสำคัญออกไปไม่น้อย ต่อมาจึงได้ลดการเซ็นเซอร์ลง (ตามที่อธิบายไว้ในบทความ) แต่ก็ยังมีส่วนที่เซ็นเซอร์อยู่ บัดนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป ผมจึงได้นำต้นฉบับบันทึกของแลนดอน มาแสดงให้ดูในตอนท้ายบทความโดยไม่เซ็นเซอร์ อย่างไรก็ตาม ผมยังไม่มีเวลาที่จะแปลข้อความส่วนที่เคยเซ็นเซอร์ในภาษาไทย ในขณะนี้ (28 กันยายน 2015)

................


เมื่อต้นปีกลาย ผมได้โพสต์เผยแพร่เอกสารบันทึกลับที่เขียนโดย เคนเน็ธ พี แลนดอน (ผู้เขียน Siam in Transition และผู้แปล "เค้าโครงเศรษฐกิจ" เป็นภาษาอังกฤษคนแรก และสามีของ มาร์กาเร็ต ผู้เขียน Anna and the King of Siam)ตอนนั้น ผมได้เซ็นเซอร์ข้อความบางตอนออก เร็วๆนี้ ผมได้ทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง (เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งบทความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ในช่วงทศวรรษ 2490 ที่ผมพยายามทำอยู่) และคิดว่า มีข้อความบางตอน ไม่จำเป็นต้องเซนเซอร์อีก คือส่วนที่เกียวกับพระองค์เจ้าจุมภฏและ ควง-"พี่น้องปราโมช"

เรื่องของเรื่องคือ สถานทูต-กท.ต่างประเทศอเมริกันได้รับข่าวลือเรื่อง ควง และ "พี่น้องปราโมช" เตรียมวางแผนจะสถาปนาพระองค์เจ้าจุมภฏเป็นกษัตริย์ เรื่องนี้เป็นเพียง "ข่าวลือ" หรือ "ข่าวกรอง" (intelligence) ซึ่งอาจจะไม่จริงก็ได้ แต่อย่างน้อย ก็มีความน่าเชื่อถือในระดับที่สถานทูตรายงานและเจ้าหน้าที่กระทรวง (คือ แลนดอน) ทำบันทึกแสดงความเห็น

ผมไม่แน่ใจว่า ในที่สุดแล้ว เรื่องนี้สามารถพิสูจน์ความจริง-ไม่จริง ได้หรือไม่ (ว่า ควง-"พี่น้องปราโมช" มีไอเดียเรื่องนี้) ซึ่งก็เช่นเดียวกับข้อมูลจำนวนมาก ที่อยู่ในเอกสารทางการทูตของอเมริกันและอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น งานของกอบเกื้อ ทั้งเรื่อง Thailand's Durable Premier และ เรื่อง Kings, Country and Constitutions ได้อาศัยข้อมูลชุดนี้เป็นหลัก และมีหลายข้อมูล เป็นเรื่องคล้ายกันนี้ แม้บางอันจะดูน่าเชื่อถือ เพราะอ้างคำของบางคนในวงการรัฐบาลหรือราชสำนักเอง เช่น เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างในหลวง กับ พิบูล และ เผ่า โดยเฉพาะกรณีรัฐธรรมนูญ 2495 เป็นต้น

ให้ผมยกตัวอย่างหนึ่ง คือ ตามข้อมูลชุดนี้ กล่าวว่า ช่วงหลังรัฐประหาร 2490 พิบูลต้องการเป็นอภิรัฐมนตรีคนหนึ่งด้วย ผมเองไม่เชื่อว่าข้อมูลนี้เป็นจริง แต่ดูเหมือนทั้ง กอบเกื้อ และ Handley ที่นำไปอ้างต่อ จะเชื่อ ฯลฯ

ในเวลาไม่นานข้างหน้า ผมเข้าใจว่า จะมีนักวิชาการบางท่านนำข้อมูลบางส่วนจากข้อมูลชุดนี้มาเผยแพร่เพิ่มเติมอีก ซึ่งแม้จะเป็นเรื่อง "เล็กๆ" แต่อาจจะ sensational พอสมควร จากจุดของผู้สนใจความขัดแย้งช่วง 2500 โดยเฉพาะบทบาทของราชสำนัก ในความขัดแย้งที่นำไปสู่การโค่นพิบูล-เผ่า (เท่าที่ผมได้เห็นเป็นข้อมูลทีน่าสนใจมาก)

โดยสรุปแล้ว ข้อมูลทางการทูตของอเมริกันและอังกฤษ เกี่ยวกับการเมืองไทย ยังคงมีความสำคัญและน่าสนใจยิ่ง แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบความจริง (verification) บ้าง นักเรียนประวัติศาสตร์ต้องชั่งน้ำหนัก และอภิปรายความน่าเชื่อถือเป็นกรณีๆไป

เฉพาะในกรณีข่าวลือเรื่อง ควง-"พี่น้องปราโมช" นี้ ผมไม่คิดว่า สามารถยืนยันความจริงได้ดังกล่าวแล้ว แต่ประเด็นที่ผมคิดว่า เอกสารนี้ช่วยทำให้มองเห็น (และนี่คือจุดประสงค์ของการเผยแพร่ในทีนี้) คือ สถานะของรัชกาลปัจจุบัน ในช่วงปีแรกๆ มีความไม่แน่นอน หรือไม่มั่นคงสูง โดยเฉพาะในส่วนทีเชื่อมโยงกับกรณีสวรรคตของรัชกาลก่อน และโดยเฉพาะในสายตาของวงการทูต-รัฐบาลตะวันตก


คำแปล
(ส่วนที่ใส่เครื่องหมาย [........] คือข้อความที่ผมยังขอเซ็นเซอร์ ข้อความสีแดง คือข้อความที่เดิมผมเคยเซ็นเซอร์)
ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และจีน ได้ตกลงเห็นชอบร่วมกันว่า หาก ควง อภัยวงศ์ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี และหากรัฐบาลของเขาได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา ตัวแทนของรัฐบาลแต่ละประเทศดังกล่าวที่กรุงเทพก็จะให้การรับรองแก่รัฐบาลควงอย่างเป็นทางการ และความสัมพันธ์กับรัฐบาลสยามก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป [ความสัมพันธ์ปกติถูกพักไว้หลังรัฐประหาร - สมศักดิ์] รัฐบาลของทั้งสี่ประเทศยังตกลงร่วมกันว่า หากคนอื่นที่ไม่ใช่ควงได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลของสี่ประเทศก็จะปรึกษาหารือกัน ก่อนที่จะให้การรับรองรัฐบาลสยามอย่างเป็นทางการ

รายงานล่าสุดเกี่ยวกับการลอบปลงพระชนม์ในหลวงอานันท์ ที่ว่า ควง กำลังเตรียมตัวที่จะประกาศว่า [........] ; ว่าในหลวงภูมิพลจะทรงสละราชสมบัติ และว่า พระองค์เจ้าจุมภฏ จะทรงเป็นกษัตริย์แทน ได้ทำให้เกิดเป็นปัจจัยใหม่ขึ้นมาในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งอาจสร้างความปั่นป่วนอย่างถึงราก การแบ่งขั้วการเมืองในขณะนี้

ในปี 1945 [ที่ถูกควรเป็นปี 1944 มากกว่า - สมศักดิ์] ควง ได้รับการดันขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองโดย ปรีดี พนมยงค์ ซึ่งตอนนี้กำลังลี้ภัยในต่างประเทศ ความทะเยอทะยานของควงทำให้เกิดแตกหักกับปรีดีภายในเวลา 9 เดือน ในเดือนพฤศจิกายน 1947 ควงได้รับการดันขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองอีก คราวนี้โดย พิบูล หลังจากพิบูลยึดอำนาจรัฐบาลจากปรีดีด้วยการรัฐประหาร เช่นเดียวกับปรีดี พิบูลคิดว่าควงจะเป็นเบี้ยที่เต็มใจและผู้ติดตามที่ว่านอนสอนง่าย แต่ดูเหมือนว่า อีกครั้งที่ควงเองกำลังเดินหมากการเมืองด้วยความทะเยอทะยานของตัวเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การแตกหักกับพิบูล

พิบูลขัดแย้งอย่างมากกับข้อเสนอของควงที่ว่าในหลวงภูมิพล [........] และที่ให้ พระองค์เจ้าจุมภฏเป็นกษัตริย์แทน อาจจะเป็นความจริงที่ว่า ในหลวงภูมิพล [........] ผมเองได้เสนอความเป็นไปได้เช่นนี้ในบันทึกช่วยจำฉบับหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนหน้านี้. กล่าวในทางการเมือง ไม่เป็นสิ่งสำคัญว่า ในหลวงภูมิพล [........] หรือไม่ หากจุดมุ่งหมายเบื้องหลังการกล่าวหานี้ คือการจัดการให้ พระองค์เจ้าจุมภฏขึ้นครองราชบัลลังก์ เพราะเรื่องนี้ก็จะเป็นเพียงความพยายามอย่างจงใจของควงที่จะฟื้นฟูอำนาจที่เคยมีอยู่ก่อน [2475] ของสถาบันกษัตริย์ และสถาปนาให้ควงเองและพี่น้องปราโมชเป็นผู้นำของคณะนิยมเจ้าและของประเทศสยาม ดูเหมือนควงและพี่น้องปราโมชหวังว่า พวกเขาจะสามารถรักษาอำนาจตัวเองไว้ได้หากพระองค์เจ้าจุมภฏได้ทรงขึ้นครองราชย์ เพราะพระองค์เจ้าจุมภฏเป็นบุคคลผู้มีวุฒิภาวะ [ประสูติ 2447 - สมศักดิ์] และมีทรัพย์สมบัติไม่น้อย ทรงมีประสบการณ์เกี่ยวกับการเมืองในราชสำนักเป็นเวลานาน มีผู้สนับสนุนพระองค์จำนวนมากในหมู่ชาวไทยและจีนในประเทศสยาม และทรงได้รับการผลักดันจากพระชายาผู้มีความทะเยอทะยาน ซึ่งในฐานะธิดาผู้หลักแหลมของอดีตเสนาบดีต่างประเทศของสยามผู้ชาญฉลาดที่สุดคนหนึ่ง [หมายถึง มรว.พันทิพย์ ธิดาคนแรกของพระองค์เจ้าไตรทศพันธ์ กรมหมื่นเทววงศ์วโรทัย - สมศักดิ์] ทรงมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับเกมการเมืองทั้งภายในประเทศและกับต่างประเทศ

สถานการณ์ปัจจุบันถูกทำให้ปั่นป่วนทางการเมืองเพิ่มขึ้นอีกจากบทบาทคอร์รัปชั่นของหลวงกาจสงครามผู้ให้การสนับสนุนควง และผู้ควบคุมกำลังทหารบางส่วนสำคัญไว้ด้วย การปฏิบัติแบบคอร์รัปชั่นของหลวงกาจสร้างความไม่พอใจให้กับพิบูล ซึ่งถือว่าการคอร์รัปชั่นเช่นนี้เป็นอภิสิทธิ์ของเขาเองและต้องการให้ลูกน้องอย่างหลวงกาจ ได้รับส่วนแบ่งในการโกงกินน้อยกว่าเขา ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากพิบูลเองคอร์รัปชั่นจนรวยแล้ว จึงสามารถแสดงท่าทีเป็นผู้มีคุณธรรมต่อกรณีคอร์รัปชั่นของหลวงกาจได้ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเองทั้งในประเทศและต่อต่างชาติ

พิบูลกับปรีดีเป็นคู่ปฏิปักษ์ทางการเมืองในคณะพรรคเดียวกัน ทั้งคู่คัดค้านการรื้อฟื้นอำนาจให้สถาบันกษัตริย์พอๆกัน พวกเขาไม่มีปัญหากับกษัตริย์องค์ปัจจุบัน เพราะยังทรงพระเยาว์และไม่มีบริวารส่วนพระองค์ หมากครั้งนี้ของควงอาจทำให้พิบูลกับปรีดีหันมาคืนดีกันเพราะกลัวต่อความเป็นไปได้ [specter] ที่พระองค์เจ้าจุมภฏจะได้เป็นกษัตริย์ ควงกับพวกกำลังพยายามสร้างคณะการเมืองอีกคณะหนึ่งที่ต่างออกไปจากคณะที่แตกออกเป็นพวกปรีดีและพวกพิบูล [หมายถึงคณะราษฎ - สมศักดิ์] ควงไม่มีทางประสบความสำเร็จหากเขาได้รับการสนับสนุนเพียงจากหลวงกาจและกำลังทหารที่หลวงกาจคุม และจากพระองค์เจ้าจุมภฏและบริวารพวกนิยมเจ้า การสนับสนุนจากพิบูลเป็นสิ่งจำเป็นหากควงอยากจะมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ

หากเค้าลางในขณะนี้ของการหันมาคืนดีกันระหว่างพิบูลกับปรีดียังคงมีต่อไป เราก็อาจจะได้เห็นสถานการณ์พัฒนาไปเป็นแบบเดียวกับเดือนธันวาคม 1938 เมื่อ พิบูลกับปรีดี รู้สึกว่า ต้องการอีกฝ่ายหนึ่ง และร่วมมือกันจัดต้งรัฐบาลผสมขึ้นมา





ดูเพิ่มเติม : ในหลวงทรงปฏิเสธคำกราบบังคมทูลเชิญเสด็จกลับประเทศไทย จนกว่าคดีสวรรคตจะเสร็จสิ้น (2491)