Monday, July 03, 2006

งานศพสฤษดิ์ ในหลวงทรงโปรดเกล้าให้จัดให้สูงกว่าผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์



หากมีโอกาส ในอนาคต ผมอยากเขียนบทความสักชิ้นเกี่ยวกับงานศพทางการเมืองของไทยหลัง 2475 ในระหว่างนี้ ผมขอนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจัดงานศพให้สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในเดือนธันวาคม 2506 สฤษดิ์ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เพียง 3 วันหลังวันพระราชสมภพของในหลวงครบ 3 รอบนักษัตร (36 พรรษา) และเพียง 1 วันหลังพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครทางสถลมารคเนื่องในวันพระราชสมภพครบ 3 รอบนักษัตรนั้น (สำหรับผู้สนใจบรรยายประวัติศาสตร์อย่างมีดราม่า อาจกล่าวได้ว่า ความบังเอิญของโอกาสทั้งสองนี้มีลักษณะเชิง symbolic สฤษดิ์ผู้ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟู้สถาบันพระมหากษ้ตริย์ ล้มลงพร้อมๆกับการมีพระราชพิธีที่อาจถือเป็นจุดสุดยอดของกระบวนการฟื้นฟูนั้น) ทันทีที่สฤษดิ์ถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า คณะรัฐมนตรีได้เรียกประชุมเป็นกรณีพิเศษที่โรงพยาบาลแห่งนั้นในค่ำวันที่ 8 นั่นเอง (นี่เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่มี "คณะรัฐมนตรีสัญจร" ในโรงพยาบาล! สฤษดิ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่เสียชีวิตขณะอยู่ในตำแหน่ง) เนื้อหาส่วนใหญ่ของการประชุมที่กินเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเป็นเรื่องการเตรียมจัดงานศพให้สฤษดิ์ ซึ่งในหลวงได้ทรงมีพระราชดำริพระราชทานมาให้ทางพลเอกถนอม กิตติขจร ผู้จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากสฤษดิ์ โดยสรุปคือ ทรงให้จัดให้สูงกว่าผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อันที่จริงกล่าวได้ว่า งานศพสฤษดิ์เป็นงานศพของสามัญชนที่ถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เข้าใจว่า ในแง่ความใหญ่โต งานศพนี้เป็นรองก็เพียงแต่งานพระราชพิธีศพของเจ้านายชั้นสูงบางพระองค์เท่านั้น (เช่น ในหลวงอานันท์, สมเด็จย่า เป็นต้น กรณีสมเด็จย่าในปี 2538 นั้น รัฐบาลให้ลดธงครึ่งเสา 3 วัน กรณีสฤษดิ์ ในหลวงทรงโปรดให้ลดธงครึ่งเสาถึง 7 วัน)

การจัดพิธีการศพ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี

พลเอกถนอม กิตติขจร รองนายกรัฐมนตรี แจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบว่า ได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและกราบบังคมทูลให้ทรงทราบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสียพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง และมีพระราชกระแสรับสั่งให้จัดพิธีศพแก่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี อย่างมีเกียรติสูง โดยทรงพระราชดำริว่า จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติบ้านเมืองอย่างมากมาย จึงสมควรให้จัดพิธีการศพให้สูงกว่าผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ กล่าวคือ

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พระราชทานโกฏกุดั่นทองน้อย เทียบเท่าพระบรมวงศ์เธอ (ทรงกรม) และให้ตั้งศพที่พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตร

ให้ไว้ทุกข์ในพระราชสำนักด้วย ซึ่งทางสำนักพระราชวังจะได้ประกาศต่อไป สำหรับข้าราชการ ทางราชการจะได้ประกาศให้ไว้ทุกข์ เป็นเวลา ๒๑ วัน

ให้ลดธงครึ่งเสา ๗ วัน

โปรดเกล้าฯให้งดงานพิธีต่างๆ คือ งานพระราชอุทธยานสโมสรวันที่ ๙ ธันวาคม งานพิธีวันรัฐธรรมนูญ ๑๐ ธันวาคม งานกาชาด ซึ่งจะมีในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๐๖ ด้วย

สำหรับการเสด็จเยี่ยมประเทศไทยของกษัตริย์มาเลเซียและการเยี่ยมของคณะทูตเวียดนามใต้ให้เลื่อนไป

คณะรัฐมนตรีรับทราบกระแสพระราชดำริ และได้ปรึกษาหารือในการจัดพิธีการศพ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐฒนตรี

มติ - ๑. รัฐบาลออกแถลงการณ์ให้ประชาชนทราบ

๒. พิธีอาบน้ำศพ วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๐๖ ที่พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตร เริ่มตั้งแต่ ๑๓.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศไว้ทุกข์ สำหรับคณะรัฐมนตรี เริ่มตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น. เวลา ๑๖.๐๐ น. พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ อาจเสด็จพระราชดำเนินด้วย

๓. ตั้งคณะกรรมการจัดพิธีอาบศพรวม ๑๕ นาย คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการทำเนียบนายกรัฐมนตรี เลขาธิการบริหารของนายกรัฐมนตรี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ปลัดกระทรวงกลาโหม เสนาธิการทหาร รองผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองอธิบดีกรมตำรวจ เลขาธิการพระราชวัง พลตรีแสวง เสนาณรงค์ รองเลขาธิการทำเนียบนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ

๔. ให้หน่วยราชการ สถานีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์ทุกแห่ง งดการแสดง ซึ่งเป็นการบันเทิง ๓ วัน คือวันที่ ๘, ๙, และ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๐๖
ซึ่งได้สั่งการไปแล้ว

๕. ให้หยุดราชการวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๐๖ ๑ วัน และลดธงครึ่งเสา ตั้งแต่วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๐๖ นี้

๖. คณะรัฐมนตรีจะบำเพ็ญกุศลต่อจากงานพิธีหลวง
...................................

การบริหารราชการแผ่นดิน
พลเอกถนอม กิตติขจร รองนายกรัฐฒนตรีแจ้งว่า ในการเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งว่า ให้บริหารราชการแผ่นดินสืบแทนต่อไป ทรงพระราชปรารภว่า เห็นใจที่จะต้องรับภาระหนัก เพราะมีภารกิจที่จะต้องทำเป็นอันมาก จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐฒนตรีบริหารราชการสืบไป ตามที่ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญจะได้นำความกราบบังคมทูลในวันพรุ่งนี้

พลเอกถนอม กิตติขจร แถลงต่อคณะรัฐมนตรีด้วยว่า จะดำเนินนโยบายตามแนวทางที่ ฯพณฯจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้วางไว้

คณะรัฐฒนตรีรับทราบข้อความที่ พลเอกถนอม กิตติขจร รองนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงมาทุกประการ และรัฐมนตรีทุกท่านได้แถลงให้รองนายกรัฐมนตรีทราบว่า ในการที่จะแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่นั้น ขอให้อย่าได้เป็นห่วงในตัวรัฐมตรีผู้ใด จะแต่งตั้งใครเป็นรัฐมนตรี ก็สุดแล้วแต่ความดำริที่เห็นเหมาะสม